หน้าเว็บ

แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ GTH แสดงบทความทั้งหมด
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ GTH แสดงบทความทั้งหมด

วันพฤหัสบดีที่ 5 เมษายน พ.ศ. 2555

มหา'ลัย เหมืองแร่ หนังดีที่คนไทยไม่ค่อยได้ดู


- เป็นหนังที่ฉายเป็นลำดับที่ 5 ของ GTH ฉายวันที่ 26 พฤษภาคม 2548
- ชื่อภาษาอังกฤษ The Tin Mine
- ความยาวหนัง 111 นาที
- หนังทำมาจากบทประพันธ์ของ อาจินต์ ปัญจพรรค์ ซึ่งเป็นเรื่องจริงที่เกิดกับตัวเค้าเอง

- ความสนุก ผมให้ 9 เต็ม 10
เป็นหนังไทยที่ดีมากเรื่องหนึ่งที่ผมเคยดูมา เนื้อเรื่องเป็นเพียงแค่การดำเนินชีวิตของนักศึษาตกอับคนนึงซึ่งถูกพ่อส่งมาทำงานที่เหมืองแร่เพื่อดัดสันดานจากการถูกรีไทร์มา เนื้อหาส่วนมากเป็นหนังเล่าที่ค่อยๆให้เห็นชีวิตของคนเหมือง กิจกรรม ความเป็นอยู่ ความผูกพันธ์ ความรักไว้เนื้อเชื่อใจกัน และความพึ่งพากันและกัน เนื้อเรื่องสนุกน่าติดตาม หนังค่อยๆทำให้เรารู้สึกผูกพันธ์และรักตัวละครทีละตัวๆ จนรู้สึกเหมือนกับว่าเราเป็นหนึ่งในนั้น ดูแล้วมีความสุข ยิ้มได้ตลอดทั้งเรื่องและมีข้อคิดสอนใจมากมาย

- นักแสดงหลัก
พิชญะ วัชจิตพันธ์ รับบท อาจินต์
ดลยา หมัดชา รับบท ละเอียด
สนธยา ชิตมณี รับบท ไอ้ไข่

- ผู้กำกับ
จิระ มะลิกุล

- รายได้เรื่องนี้ 30 ล้านบาท 

- เพลงประกอบที่ใช้มี
You Are My Sunshine ของ Jimmie Davis
Short Trip Home ของ Edgar Mayer
เสียงครวญจากดวงใจ คำร้อง / ทำนอง โดย พีระ ตรีบุปผา ต้นฉบับขับร้องโดย สมยศ ทัศนพันธุ์
บุรงกากราตุอา ทำนองโดย ชัยภัค ภัทรจินดา (นิก กอไผ่)

- รางวัล
ไม่มีข้อมูล

-สถานที่ถ่ายทำ
ที่อำเภอคุระบุรี จังหวัดพังงา

- เป็นหนังที่ดีมาก มาจากบทประพันธ์ที่ขายดี แต่รายได้ไม่มาก อาจจะเป็นเพราะหนังแนวนี้ไม่เหมาะกับความนิยมของคนไทยเท่าไรนัก และขณะนั้นหนังฟอร์มยักษ์จากฮอลลิวูดเข้ามาพร้อมกันมาก และยังมีปัญหาเรื่องโรงหนังอีกต่างหาก
- หนังเรื่องนี้ไม่ได้เข้าฉายใน SF Cinema 
- เป็นหนังที่ทำเงินน้อยที่สุดเป็นอันดับ 5 ร่วมของ GTH
- เพลง You are my sunshine นั้น ทีมงานต้องซื้อลิขสิทธิ์มากว่า 2 ล้านบาท
- เนื้อเรื่องนั้นเกิดขึ้นที่เหมืองกระโสม ตำบลกระโสม อำเภอตะกั่วทุ่ง แต่ถ่ายทำที่อำเภอคุระบุรีแทนในจังหวัดพังงา
- คุณอาจินต์ไม่ยอมให้ลิขสิทธิ์ในการทำหนังเรื่องนี้เพราะเข้าใจว่าเป็นหนัง action แต่พอรู้ว่าไม่ใช่ก็ยินดีขายให้
- เรือขุดที่ใช้ในหนังเล็กกว่าของจริงประมาณ 1 ใน 3 ส่วน ใช้เวลาสร้าง 5 เดือน
- แอนโทนี่ ฮาเวิร์ด โกล ที่รับบทนายฝรั่งชาวออสเตรเลีย แต่ที่จริงแล้วเป็นชาวอังกฤษที่อยู่เมืองไทยมา 14 ปีแล้ว และมีเมียเป็นคนไทยชาวหนองคาย

- การ์ตูน ยังหาไม่ได้เลย ไม่รู้มีหรือเปล่า

วันจันทร์ที่ 2 เมษายน พ.ศ. 2555

แจ๋ว ที่ไม่ค่อยแจ๋ว


- เป็นหนังที่ฉายเป็นลำดับที่ 4 ของ GTH ฉายวันที่ 23 ธันวาคม 2547
- ชื่อภาษาอังกฤษ M.A.I.D (Mission almost impossible done)
- ความยาวหนัง 92 นาที

- ความสนุก ผมให้ 6 เต็ม 10
(รอวิจารณ์)

- นักแสดงหลัก
พรชิตา ณ สงขลา(เบนซ์) เล่นเป็น "แวว"

- ผู้กำกับ
ยงยุทธ ทองกองทุน

- รายได้เรื่องนี่ 30 ล้านบาท 

- เพลงประกอบที่ใช้มี 
;

-มิวสิควีดีโอ
;

- รางวัล
ไม่มีข้อมูล

- รายได้คงบอกความแจ๋วของหนังเรื่องนี้ได้ในระดับนึง
- เป็นหนังที่ทำเงินน้อยที่สุดเป็นอันดับ 5 ร่วมของ GTH ครับ
- ข้อมูลของหนังเรื่องนี้น้อยมากครับ

- การ์ตูน ยังหาไม่ได้เลย ไม่รู้มีหรือเปล่า

สายล่อฟ้า หนังตลกแฝงคำคมสไตล์ยุทธเลิศ


- เป็นหนังที่ฉายเป็นลำดับที่ 3 ของ GTH ฉายวันที่ 7 ตุลาคม 2547
- ชื่อภาษาอังกฤษ Pattaya Maniac
- ความยาวหนัง 93 นาที
- ชื่อหนังได้มาจาก เพลง สายล่อฟ้าของ อัศนี-วสันต์ 
- ความหมายของชื่อหนังน่าจะมาจากแนวคิดของยุทธเลิศที่ว่า เราทำสิ่งใดไว้ก็จะได้รับผลสิ่งนั้น
- เป็นหนังเรื่องแรกที่ผลิตและจัดจำหน่ายโดย GTH อย่างเต็มตัว

- ความสนุก ผมให้ 7 เต็ม 10
ตัวหนังไม่ได้ตลกอะไรมาก แต่ดูแล้วน่าติดตามตลอด ไม่น่าเบื่อ มีข้อคิด คำคม แฝงไว้ตลอดทั้งเรื่อง มีมุขที่ประชดประชันและเผยให้เห็นสังคมจริงๆในหลายๆด้าน ไม่ว่าจะเป็นการใช้ชีวิต ความเชื่อ เรื่องเพศ ความหรูหราฟุ่มเฟือยต่างๆ ตอนจบก็เหมาะกับคอนเซปต์ของเรื่องไม่หลุดประเด็น

- นักแสดง 
ชูศักดิ์ เอี่ยมสุข(โหน่ง) เล่นเป็น "ตุ่น"
สมชาย เข็มกลัด(เต๋า) เล่นเป็น "เต่า"
พิชญ์นาฏ สาขากร(เมย์) เล่นเป็น "นก"
อรจิรา แหลมวิไล(แป้ง) เล่นเป็น "หนู"

-นักแสดงรับเชิญ แต่ละคนออกมาไม่ถึง 2 นาทีเลย

เฌอมาลย์ บุญยศักดิ์(พลอย) เล่นเป็น แมว 

เพ็ชรทาย วงษ์คำเหลา(หม่ำ) ..... เฮียหมา

ชมพูนุช ปิยะภาณี ..... กระรอก

ยุทธนา ล.พันธุ์ไพบูลย์ ..... ปู

วสันต์ อุตตมะโยธิน ..... เพื่อนของปู

เหี่ยวฟ้า ..... เฮียกระทิง

- ผู้กำกับ มือฉมังแนวประชดประชันแฝงข้อคิดต้องยกให้เค้าคนนี้
ยุทธเลิศ สิปปภาค

- รายได้เรื่องนี่ 75 ล้านบาท 

- เพลงประกอบที่ใช้มี 12 เพลง
1. มักสาวลำซิ่ง - ร็อคสะเดิด
2. สายล่อฟ้า - อัสนี-วสันต์
3. รบกวนมารักกัน - ทาทา ยัง
4. เกลียดตุ๊ด - ซีเปีย
5. ฉันอยู่ตรงนี้ - แบล็คเฮด
6. จักรยานสีแดง - โลโซ
7. แฟนจ๋า - ธงไชย แมคอินไตย์
8. อมพระมาพูด - เบิร์ด-เสก
9. ฉันหรือเธอ (ที่เปลี่ยนไป) - โลโซ
10. รักเผื่อเลือก - อี๊ด ฟลาย
11. สายล่อฟ้า (Cover Version) - บิ๊กแอส
12. หมาเศร้า - แก้ว ลายทอง


-มิวสิควีดีโอ
ใช้เพลง ฉันอยู่ตรงนี้ ของ black head แสดงโดย ลานนา คัมมินส์ กับ ปู black head


- รางวัล
ไม่มีข้อมูล

- เป็นหนังเรื่องแรกที่ชื่อในหนังของนักแสดงทุกคนเป็นชื่อ สัตว์ แม้กระทั่งตัวประกอบเล็กๆก็ตาม
-คำคมดีดี
"ไอสไตน์ เคยกล่าวไว้ว่า บนโลกนี้ไม่มีคำว่าปาฏิหาริย์ ทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้น ล้วนแล้วแต่เกิดขึ้นได้ด้วยเหตุและผลของการกระทำที่บางเผ่าพันธุ์ บางศาสนา เรียกมันว่า กรรม"

- การ์ตูน ยังหาไม่ได้เลย ไม่รู้มีหรือเปล่า

วันอังคารที่ 27 มีนาคม พ.ศ. 2555

ชัตเตอร์ กดติดวิญญาณ หนัง 100 ล้านที่ดังไปทั่วโลก


- เป็นหนังเรื่องที่ 2 ของ GTH ฉายวันที่ 9 กันยายน 2547
- ชื่อภาษาอังกฤษ Shutter
- ความยาวหนัง 97 นาที
- หนังเรื่องนี้ได้แนวคิดและแรงบันดาลใจ มาจากความขลังของภาพเหตุการณ์ 14 ตุลา
- GMM ผลิต และให้ GTH จัดจำหน่าย

- ความสนุก ผมให้ 10 เต็ม 10

- นักแสดงหลัก
อนันดา เอเวอร์ริ่งแฮม  - แสดงเป็น “ธรรม์”
ณัฐฐาวีรนุช ทองมี (จ๋า) - แสดงเป็น “เจน”
นอกจากนี้ยังมี อิม อชิตะ วุฒินันท์สุระสิทธิ์ แสดงเป็น "เนตรดาว"

- รายได้เรื่องนี่ 120 ล้านบาท ทำร้ายได้เป็นอันดับที่ 5 ณ ขณะนี้
- ขายลิขสิทธิ์ได้ใน 30 ประเทศทั่วโลก 
- สร้างรายได้ ฉายในสิงคโปร์ได้ 33 ล้าน ที่เกาหลีติดอันดับ 5 หนังทำเงิน ฉายที่บราซิล 4 สัปดาห์แรก ทำรายได้สูงถึง 100 ล้านบาท

- เพลงประกอบที่ใช้มี
วิญญาณในภาพถ่าย ของ วงคิรีบูน

- ผู้กำกับมี เป็นผู้กำกับไฟแรงที่ไฝ่ฝันจะเป็นผู้กำกับมืออาชีพให้ได้คือ
บรรจง ปิสัญธนะกูล
ภาคภูมิ วงศ์ภูมิ 

- ได้รับรางวัล Best Asian Film จากเทศกาล Fantasia Film Festi val 2005 ที่แวนคูเวอร์ ประเทศแคนาดา 
- รางวัลหนังแฟนตาซีที่ดีที่สุดในงาน Fantastic's Arts Festival of Gerardmer ประเทศฝรั่งเศส
- ถูกซื้อลิขสิทธิ์ไปสร้างใหม่ในปี พ.ศ. 2550 กำกับโดย Masayuki Ochiai ผู้กำกับชาวญี่ปุ่น นำแสดงโดย ราเชล เทย์เลอร์ ในชื่อ Shutter (ชื่อไทย - ชัตเตอร์ แรงอาฆาต ภาพวิญญาณสยอง)
- มีผู้สร้างภาพยนตร์บอลลีวูด นำไปสร้างเป็นภาพยนตร์ภาษาทมิฬ ออกฉายในปี พ.ศ. 2550 ชื่อเรื่อง Sivi กำกับโดย K. R. Senthil Nathan ผู้กำกับชาวอินเดีย

- การ์ตูน ยังหาไม่ได้เลย

วันพุธที่ 21 มีนาคม พ.ศ. 2555

แฟนฉัน หนังเรื่องแรกของ GTH

- เป็นหนังเรื่องแรกของ GTH ครับ ฉายวันที่ 3 ตุลาคม 2546
- ชื่อภาษาอังกฤษ My Girl
- ชื่อภาพยนตร์ มาจากชื่อเพลง แฟนฉัน ของวงชาตรี
- ความยาวหนัง 110 นาที
- จะเรียกว่าเป็นหนังเรื่องแรกก็ไม่เชิงแต่ก็ไม่ผิด เพราะทั้ง3บริษัทรวมตัวกันเฉพาะกิจครั้งแรกผลิตหนังเรื่องนี้ แต่ตอนนั้นยังไม่ได้เป็น GTH เต็มตัว ซึ่งหลังจากประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก ทั้ง 3 บริษัทจึงรวมตัวกันจริงๆ แล้วยกเลิกบริษัทเดิมของแต่ละบริษัทไป

- ความสนุก ผมให้ 9.5 เต็ม 10

- นักแสดง ก็มีที่เด่นๆคือ
ชาลี ไตรรัตน์ (แน็ค) - แสดงเป็น “เจี๊ยบ”
โฟกัส จีระกุล (โฟกัส) - แสดงเป็น “น้อยหน่า”
เฉลิมพล ทิฆัมพรธีรวงศ์ (แจ๊ค) - แสดงเป็น “แจ๊ค”
นอกจากนี้ยังมี จั๊ก ชวินมาเล่นเป็นเจี๊ยบตอนโตด้วย และเป็นคนภาคเสียงเกือบทั้งเรื่อง

- รายได้เรื่องนี่ 137.7 ล้านบาท ทำร้ายได้เป็นอันดับที่ 3 ณ ขณะนี้

- เพลงประกอบมีทั้งหมด 19 เพลง ใช้เพลงยุคเก่าทั้งนั้น
ส่วนเพลงที่นำมาทำใหม่เช่น แฟนฉัน โดย AB Normal, เพลงรักครั้งแรก โดย จั๊ก - ชวิน, เพลงป้ากะปู่ โดย ดาจิม และเพลงที่แต่งใหม่ร้องโดย ปาล์มมี่ กลายเป็นเพลงประกอบที่ 20
เพลงสากลยอดนิยมในอดีต อย่างเพลง More Than I Can Say ของลีโอ เซเยอร์

- ผู้กำกับมี ุ คนจาก กลุ่ม 365 ฟิล์ม กลุ่มคนรักหนังของเพื่อนๆ คณะนิเทศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย รุ่น 29 ประกอบด้วย
นิธิวัฒน์ ธราธร (ต้น),
ทรงยศ สุขมากอนันต์ (ย้ง),
คมกฤษ ตรีวิมล (เอส),
วิทยา ทองอยู่ยง (บอล),
วิชชา โกจิ๋ว (เดียว),
อดิสรณ์ ตรีสิริเกษม (ปิ๊ง)

- เยอะมาก ดูใน wiki แจ็ก ได้รางวัลแสดงสมทบชายยอดเยี่ยมด้วย

- การ์ตูน ยังหาไม่ได้เลย

- สถานที่ถ่ายทำ ส่วนใหญ่ที่ จังหวัดเพชรบุรี หาดเจ้าสำราญก็มีนะ

- ตอนคัดนักแสดง

วันพุธที่ 14 มีนาคม พ.ศ. 2555

ประวัติ GTH


GTH เป็นบริษัทผลิตหนังที่ผมชื่นชอบที่สุด เรียกได้ว่าดูหนังเค้าตั้งแต่เรื่องเลยทีเดียวครับ แล้วก็ชอบมาตั้งแต่นั้น ถึงแม้หนังที่เค้าทำจะไม่ได้ประสบความสำเร็จทุกเรื่อง แต่หลายๆเรื่องต้องยอมรับในคุณภาพจริงๆ หนังส่วนใหญ่ของ GTH จะสะท้อนสังคมได้ตรงประเด็น มีข้อคิดแอบแฝง นอกจากสนุกยังได้ประโยชน์ด้วย เรียกได้ว่าเป็นต้นแบบให้หนังไทยยุคใหม่เลยทีเดียวกับ ผมจึงลองหาประวัติของบริษัทมาแชร์กันครับ

ประวัติ

จีเอ็มเอ็ม ไท หับ หรือที่นิยมเรียกตามตัวย่อว่า จีทีเอช เป็นบริษัทผู้ผลิตและจำหน่ายภาพยนตร์ไทย เป็นค่ายหนังในเครือ จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ มุ่งเน้นสร้างภาพยนตร์ไทย อย่างครบวงจร การจัดการที่มีมาตรฐานสากล, ผลประโยชน์ที่เป็นธรรมต่อคนทำงานและพร้อมที่จะดูแล โดยยึดหลัก 3 ประการคือ “สดใหม่-คุณภาพ-จริงใจ” ซึ่งทั้งสามประการเปรียบเสมือนคุณลักษณะ ของทั้งสามบริษัทที่มีมาช้านาน โดยได้วางเป้าผลิตหนังไทยใน “กระแสหลัก” และเป็นหนังที่สร้างความพึงพอใจให้กับมวลชน

การรวมตัวของบริษัท

จีเอ็มเอ็ม ไท หับ หรือ จีทีเอช เกิดจากการร่วมทุนของ 3 บริษัท คือ จีเอ็มเอ็ม พิคเจอร์, ไท เอ็นเตอร์เทนเมนต์ ของ วิสูตร พูลวรลักษณ์ และ หับ โห้ หิ้น ฟิล์ม (ในเครือแกรมมี่) ของ จิระ มะลิกุล โดยชื่อบริษัทใหม่ มาจากชื่อต้น และอักษรย่อหน้าชื่อของบริษัทร่วมทุนทั้งสาม ด้วยทุนจดทะเบียน 300 ล้านบาท ได้แก่ G (51%) T (30%) และ H (19%)

งานสร้างภาพยนตร์

จีทีเอชมุ่งเน้นสร้างหนังไทยในระบบ “สตูดิโอ” ที่ครบวงจร, มีระบบการทำงานที่ชัดเจน, การจัดการที่มีมาตรฐานสากล, ผลประโยชน์ที่เป็นธรรมต่อคนทำงานและพร้อมที่จะดูแลและให้ความช่วยเหลือกับ FILM MAKER ทั้งเก่าและใหม่ อย่างใกล้ชิด โดยยึดหลัก 3 ประการคือ “สดใหม่-คุณภาพ-จริงใจ” ซึ่งทั้งสามประการเปรียบเสมือนคุณลักษณะ ของทั้งสามบริษัทที่มีมาช้านาน โดย GTH ได้วางเป้าผลิตหนังไทยใน “กระแสหลัก” และเป็นหนังที่สร้างความพึงพอใจให้กับมวลชน เป็นค่ายหนังไทยที่ได้รับความนิยมอย่างมากเป็นอันดับหนึ่ง จากคนในสังคมเมือง และกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่มีหัวคิดทันสมัย โดยการรวมตัวของทั้งสามบริษัท เกิดขึ้นหลังจากปี พ.ศ. 2546 เมื่อทั้งหมดร่วมงานสร้างภาพยนตร์ แฟนฉัน และประสบความสำเร็จเป็นอย่างสูง

ที่มา - (wiki)



ภาพยนตร์เรื่องสุดท้ายของแต่ละบริษัท

Grammy 
- ผลิต 15 ค่ำ เดือน 11 โดยคุณจิระ มะลิกุล
- ผลิต แฟนฉัน ในนามของทั้ง 3 บริษัท
- ผลิต ชัตเตอร์ กดติดวิญญาณ เอง แต่ให้ GTH เป็นผู้จัดจำหน่าย
ไท เอนเตอร์เทนเมนต์
- ผลิต สตรีเหล็ก
ผลิต แฟนฉัน ในนามของทั้ง 3 บริษัท
- ผลิต หมอเจ็บ เป็นเรื่องสุดท้ายในปี 2547
Hub Ho Hin
ผลิต แฟนฉัน ในนามของทั้ง 3 บริษัท
- ผลิต ไอ้ฟัก ในปี 2547 แต่ก็ได้รับการสนับสนุนจากทั้ง 3 บริษัทเช่นกัน


ผลงานภาพยนตร์

1. My Girl แฟนฉัน ( 3 ตุลาคม 2546 ) ทำรายได้ 137.7 ล้านบาท
2. Shutter ชัตเตอร์ กดติดวิญญาณ ( 9 กันยายน 2547 ) ทำรายได้ 120 ล้านบาท
3. Pattaya Maniac สายล่อฟ้า ( 7 ตุลาคม 2547 ) ทำรายได้ 75 ล้านบาท
4. M.A.I.D (Mission Almost Impossible Done) แจ๋ว ( 23 ธันวาคม 2547 ) ทำรายได้ 30 ล้านบาท
5. The Tin Mine มหา'ลัย เหมืองแร่ ( 26 พฤษภาคม 2548 ) รายได้ 30 ล้านบาท
6. Oops! There' Dad วัยอลวน 4 ตั้ม โอ๋ รีเทิร์น ( 28 กรกฎาคม 2548 ) ทำรายได้ 50 ล้านบาท
7. Dear Darkanda เพื่อนสนิท ( 6 ตุลาคม 2548 ) ทำรายได้ 80 ล้านบาท
8 Dorm เด็กหอ ( 23 กุมภาพันธ์ 2549 ) ทำรายได้ 50 ล้านบาท
9. Metrosexual แก๊งชะนีกับอีแอบ ( 13 กรกฎาคม 2549 ) ทำรายได้ 49 ล้านบาท
10. See How They Run โกยเถอะโยม ( 3 สิงหาคม 2549 ) ทำรายได้ 70 ล้านบาท
11. Seasons Change เพราะอากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย ( 31 สิงหาคม 2549 ) ทำรายได้ 71.8 ล้านบาท
12. Lucky Loser หมากเตะ รีเทิร์น ( 19 ตุลาคม 2549 ) ทำรายได้ 10 ล้านบาท
13. The Possible เก๋า เก๋า ( 4 ธันวาคม 2549 ) ทำรายได้ 35 ล้านบาท
14. Final Score 365 วัน ตามติดชีวิตเด็กเอ็นท์ ( 1 กุมภาพันธ์ 2550 ) ทำรายได้ 25 ล้านบาท
15. Alone แฝด ( 29 มีนาคม 2550 ) ทำรายได้ 67.5 ล้านบาท
16. Kung Fu TootSie ตั๊ดสู้ฟุด ( 19 กรกฎาคม 2550 ) ทำรายได้ 80 ล้านบาท
17. The Bedside Detective สายลับจับบ้านเล็ก ( 6 กันยายน 2550 ) ทำรายได้ 70 ล้านบาท
18. Body บอดี้ ศพ#19 ( 4 ตุลาคม 2550 ) ทำรายได้ 30 ล้านบาท
19. Handle Me With Care กอด ( 21 กุมภาพันธ์ 2551 ) ทำรายได้ 6 ล้านบาท
20. Hormones ปิดเทอมใหญ่ หัวใจว้าวุ่น ( 20 มีนาคม 2551 ) ทำรายได้ 80 ล้านบาท
21. Phobia สี่แพร่ง ( 24 เมษายน 2551 ) ทำรายได้ 85 ล้านบาท
22. The Last Moment รัก/สาม/เศร้า ( 19 มิถุนายน 2551 ) ทำรายได้ 60 ล้านบาท
23. Coming Soon โปรแกรมหน้า วิญญาณอาฆาต ( 30 ตุลาคม 2551 ) ทำรายได้ 50 ล้านบาท
หวานขม BITTERSWEET BOYdPOD
24. Best In Time ความจำสั้น แต่รักฉันยาว ( 5 มีนาคม 2552 ) ทำรายได้ 49 ล้านบาท
25. Dear Galileoหนีตามกาลิเลโอ ( 23 กรกฎาคม 2552 ) ทำรายได้ 30 ล้านบาท
26. Phobia2 ห้าแพร่ง ( 9 กันยายน 2552 ) ทำรายได้ 114 ล้านบาท
27. Bangkok Traffic Love Story รถไฟฟ้า มาหานะเธอ ( 15 ตุลาคม 2552 ) ทำรายได้ 147 ล้านบาท
28. The little Comedian บ้านฉัน..ตลกไว้ก่อน (พ่อสอนไว้) ( 11 มีนาคม 2553 ) ทำรายได้ 42 ล้านบาท
29. Hello Stranger กวน มึน โฮ ( 19 สิงหาคม 2553 ) ทำรายได้ 125ล้านบาท
30. Cool Gel Attacks กระดึ๊บ (2 ธันวาคม 2553) ทำรายได้ 14 ล้านบาท
31. Suck Seed ห่วยขั้นเทพ (17 มีนาคม 2554) ทำรายได้ 80 ล้านบาท
32. Lad Da Land ลัดดาแลนด์ (28 เมษายน 2554) ทำรายได้ 117 ล้านบาท
33. Tang Yaek Wat Jai ทางแยกวัดใจ (15 ธันวาคม 2554)ฉายเฉพาะในเครือเมเจอร์เท่านั้น
34. Top Secret วัยรุ่นพันล้าน (20 ตุลาคม 2554) ทำรายได้ 38 ล้านบาท
35. ATM เออรัก เออเร่อ (19 มกราคม 2555) ทำรายได้ 152.5 ล้านบาท
36. รัก 7 ปี ดี 7 หน (2555)
37. เดอะ เคาท์ดาวน์ (2555)
รายได้มากที่สุดและน้อยที่สุด

มากที่สุด
1. ATM เออรัก เออเร่อ (19 มกราคม 2555) ทำรายได้ 152.5 ล้านบาท
2. รถไฟฟ้า มาหานะเธอ ( 15 ตุลาคม 2552 ) ทำรายได้ 147 ล้านบาท
3. แฟนฉัน ( 3 ตุลาคม 2546 ) ทำรายได้ 137.7 ล้านบาท
4. กวน มึน โฮ ( 19 สิงหาคม 2553 ) ทำรายได้ 125ล้านบาท
5. ชัตเตอร์ กดติดวิญญาณ ( 9 กันยายน 2547 ) ทำรายได้ 120ล้านบาท
6. ลัดดาแลนด์ (28 เมษายน 2554) ทำรายได้ 117 ล้านบาท
7. ห้าแพร่ง ( 9 กันยายน 2552 ) ทำรายได้ 114 ล้านบาท

น้อยที่สุด 8 เรื่อง
1. กอด ( 21 กุมภาพันธ์ 2551 ) ทำรายได้ 6 ล้านบาท
2. หมากเตะ รีเทิร์น ( 19 ตุลาคม 2549 ) - ทำรายได้ 10 ล้านบาท
3. กระดึ๊บ (2 ธันวาคม 2553) - ทำรายได้ 14 ล้านบาท
4. Final Score 365 วัน ตามติดชีวิตเด็กเอ็นท์ ( 1 กุมภาพันธ์ 2550 ) - ทำรายได้ 25 ล้านบาท
5. แจ๋ว ( 23 ธันวาคม 2547 ) - ทำรายได้ 30 ล้านบาท
5. มหา'ลัย เหมืองแร่ ( 26 พฤษภาคม 2548 ) - รายได้ 30 ล้านบาท
5. บอดี้ ศพ#19 ( 4 ตุลาคม 2550 ) - ทำรายได้ 30 ล้านบาท
5. หนีตามกาลิเลโอ ( 23 กรกฎาคม 2552 ) - ทำรายได้ 30 ล้านบาท

หนังที่เกิน 100 ล้าน

มีทั้งหมด 7 เรื่อง

1. ATM เออรัก เออเร่อ (19 มกราคม 2555) ทำรายได้ 152.5 ล้านบาท
2. รถไฟฟ้า มาหานะเธอ ( 15 ตุลาคม 2552 ) ทำรายได้ 147 ล้านบาท
3. แฟนฉัน ( 3 ตุลาคม 2546 ) ทำรายได้ 137.7 ล้านบาท
4. กวน มึน โฮ ( 19 สิงหาคม 2553 ) ทำรายได้ 125ล้านบาท
5. ชัตเตอร์ กดติดวิญญาณ ( 9 กันยายน 2547 ) ทำรายได้ 120ล้านบาท
6. ลัดดาแลนด์ (28 เมษายน 2554) ทำรายได้ 117 ล้านบาท
7. ห้าแพร่ง ( 9 กันยายน 2552 ) ทำรายได้ 114 ล้านบาท


นักแสดงนำทั้งหมด

1. ชาลี ไตรรัตน์ (แน็ค) |
2. โฟกัส จีระกุล (โฟกัส) |
3. เฉลิมพล ทิฆัมพรธีรวงศ์ (แจ๊ค) |
4. อนันดา เอเวอร์ริ่งแฮม |
5. ณัฐฐาวีรนุช ทองมี (จ๋า) |
6. ชูศักดิ์ เอี่ยมสุข(โหน่ง) |
7. สมชาย เข็มกลัด(เต๋า) |
8. พิชญ์นาฏ สาขากร(เมย์) |
9. อรจิรา แหลมวิไล(แป้ง) |
10. พรชิตา ณ สงขลา(เบนซ์) |
11. พิชญะ วัชจิตพันธ์ จาก มหาลัยเหมืองแร่ |
12. ดลยา หมัดชา จาก มหาลัยเหมืองแร่ |
13. สนธยา ชิตมณี จาก มหาลัยเหมืองแร่ |

ใคร กี่เรื่อง เรื่องอะไรบ้าง(รอข้อมูล)

ผู้กำกับ

1. นิธิวัฒน์ ธราธร (ต้น) |
2. ทรงยศ สุขมากอนันต์ (ย้ง) |
3. คมกฤษ ตรีวิมล (เอส) |
4. วิทยา ทองอยู่ยง (บอล) |
5. วิชชา โกจิ๋ว (เดียว) |
6. อดิสรณ์ ตรีสิริเกษม (ปิ๊ง) |
7. บรรจง ปิสัญธนะกูล |
8. ภาคภูมิ วงศ์ภูมิ |
9. ยุทธเลิศ สิปปภาค |
10. ยงยุทธ ทองกองทุน |
11. จิระ มะลิกุล |

ใคร กี่เรื่อง เรื่องอะไรบ้าง(รอข้อมูล)

บุคคลสำคัญ(รอข้อมูล)

;

ละครซิตคอม


เนื้อคู่ประตูถัดไป (2551-2552) 2 ซีซั่น 35 ตอน ช่อง 9
สายลับเดอะซีรีส์ กับ 24 คดีสุดห้ามใจ (2552) 26 ตอน ช่อง 9
เนื้อคู่อยากรู้ว่าใคร (4 มกราคม 2553-27 ธันวาคม 2553) 49 ตอน ททบ. 5
หมวดโอภาส ยอดมือปราบคดีพิศวง (2554) 26 ตอน ช่อง 9
หมวดโอภาส ยอดมือปราบคดีพิศวง ซีซั่น2 (2555)

หนังสั้น(รอข้อมูล)

;

ช่องเคเบิลทีวี

มีช่องเดียวคือ เพลย์ แชนแนล ออกอากาศครั้งแรกเมื่อวันที่ 16 พฤษภาคม พ.ศ. 2554 (ทดลองการออกอากาศ) และวันที่ 24 พฤษภาคม พ.ศ. 2554 (ออกอากาศอย่างเป็นทางการ) ซึ่งจะออกอากาศพร้อมกับช่อง เจเคเอ็น (JKN Channel) และ เจเอสแอล แชนแนล (JSL Channel)

อื่นๆ

ยังมีบริการบัตรเดบิตชื่อว่า GTH is me โดยร่วมมือกับ ธนาคารกสิกรไทย ใช้เป็นบัตรแทนเงินสดแล้วยังมีสิทธิประโยชน์ไว้ให้สมาชิกอีกมากมายเช่นชมภาพยนตร์รอบพิเศษของจีทีเอช, จับจ่ายใช้สอยด้วยบัตรแทนเงินสดได้สะดวกในร้านค้าที่รับบัตร Visa ก่อนฉายจริง และรับสิทธิประโยชน์ต่างๆ เป็นต้น(wiki